top of page

ฝุ่น PM2.5 มหันตภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทย

ทุกครั้งที่ย่างเข้าสู่ช่วงปลายปี คนไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือปัญหาฝุ่น PM2.5 จนกระทั่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ทุกคนต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องฟอกอากาศ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน หรือการติดตามคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด


แม้ฝุ่น PM2.5 จะมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 2.5 ไมครอนเท่านั้น แต่มันกลับกลายเป็นอาวุธร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยไปแล้วกว่า 33,456 คน ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2564 สถานการณ์นี้ยิ่งน่าวิตกมากขึ้นเมื่อกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยข้อมูลว่า มีคนไทยป่วยด้วยโรคที่มีสาเหตุมาจากมลพิษทางอากาศมากถึง 5,415,262 คน และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ข้อมูลจากสถาบันผลกระทบด้านสุขภาวะ (Health Effect Institute) ที่ระบุว่าในปีเดียวกัน มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลกเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศถึง 700,000 คน หรือเฉลี่ยเกือบ 2,000 คนต่อวัน


อันตรายของฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ขนาดอันจิ๋วของมัน ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ผ่านการสูดหายใจเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ลึกลงไปถึงปอด และบางอนุภาคยังสามารถเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงมากมาย ทั้งโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคมะเร็งปอด


เด็กเล็กคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ การสะสมของฝุ่นพิษในร่างกายเป็นเวลานานส่งผลให้สมรรถภาพปอดลดลง และหากไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งปอดหรือมะเร็งระบบทางเดินหายใจในอนาคต ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งสูงถึงระดับอันตราย


ภาระทางการเงินที่ครอบครัวไทยต้องแบกรับก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน จากการศึกษาของศูนย์วิจัยกสิกรพบว่า แต่ละครัวเรือนต้องสูญเสียเงินไปกับการซื้ออุปกรณ์ป้องกันฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยถึง 6,124 บาท ทั้งเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากอนามัย แต่การป้องกันตัวเองเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากสภาพแวดล้อมยังคงเต็มไปด้วยฝุ่นพิษและภาครัฐยังไม่มีมาตรการแก้ไขที่จริงจัง


ความสูญเสียครั้งล่าสุดที่สะเทือนใจสังคมไทยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เมื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้องสูญเสียศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากโรคมะเร็งที่มีสาเหตุมาจากฝุ่น PM2.5 ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของยีน และในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ยังมีอาจารย์อีก 3 ท่านที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเช่นกัน ได้แก่ รศ.ดร.ภาณุวรรณ จันทวรรณกูร รศ.ดร.มงคล รายะนคร และ นพ.กฤตไท ธนกฤตสมบัติ


เบื้องหลังตัวเลขสถิติและการสูญเสียเหล่านี้ ยังมีอีกหลายหมื่นชีวิตที่จากไปอย่างเงียบๆ เพราะฝุ่น PM2.5 จนทำให้สังคมไทยต้องตั้งคำถามว่า จะต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิตกว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง หรือว่าเราจะปล่อยให้ "การสูดฝุ่นประจำปี" กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าของสังคมไทยไปอีกนานเท่านาน


📌 สั่งซื้อสินค้า สอบถาม

สมัครเป็นทีมงาน

เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ชั้น 3 หน้า AIS

โทร : 061-115-9583

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page