หากไม่เปลี่ยนไส้กรองเครื่องกรองน้ำตามระยะเวลาที่แนะนำ อาจส่งผลเสียต่อคุณภาพของน้ำ
1. ประสิทธิภาพการกรองลดลง
ฝุ่นละออง สิ่งสกปรกจะสะสมมากขึ้นในไส้กรอง ทำให้ประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนลดลง
2. เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย
ไส้กรองที่ใช้งานมานาน จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งจะปนเปื้อนลงไปในน้ำที่กรองออกมา
3. น้ำที่ได้อาจไม่สะอาดและปลอดภัย
เนื่องจากประสิทธิภาพการกรองลดลง และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทำให้น้ำที่ผ่านกระบวนการกรองอาจไม่สะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค
4. เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ
การดื่มน้ำที่ไม่ผ่านการกรองอย่างมีประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร การสะสมของสารพิษในร่างกาย
ดังนั้น การเปลี่ยนไส้กรองเครื่องกรองน้ำตามระยะเวลาที่แนะนำ เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพของน้ำดื่มให้มีความสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
มีหลายวิธีที่สามารถประเมินว่าไส้กรองน้ำมีความสกปรกและควรเปลี่ยนใหม่ ดังนี้
1. ตรวจสอบสีและลักษณะของไส้กรอง
- ไส้กรองที่สะอาดจะมีสีขาว หรือสีตามที่ระบุในคู่มือ
- ไส้กรองที่สกปรก จะเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือน้ำตาล และอาจพบคราบสกปรก
2. ตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำ
- ไส้กรองที่สะอาดจะทำให้อัตราการไหลของน้ำผ่านเครื่องกรองดี
- ถ้าอัตราการไหลลดลงอย่างมาก แสดงว่าไส้กรองต้องเปลี่ยนใหม่
3. ตรวจสอบคุณภาพของน้ำที่ผ่านเครื่องกรอง
- ถ้าพบว่าน้ำมีสี กลิ่น หรือมีสิ่งปนเปื้อน แสดงว่าไส้กรองทำงานไม่มีประสิทธิภาพแล้ว
4. ตรวจสอบตามระยะเวลาที่แนะนำ
- โดยทั่วไปไส้กรองน้ำควรเปลี่ยนทุก 6-12 เดือน หรือตามที่ระบุในคู่มือของเครื่องกรอง
ในกรณีที่พบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบเปลี่ยนไส้กรองน้ำ เพื่อให้ได้น้ำที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับการบริโภค
ปัญหาพวกนี้ โคเวย์เข้าใจเพราะเราช่วยจัดการให้
💙 ฟรี! เช็ก ล้าง ดูแลผลิตภัณฑ์ ทุก 2 เดือน
💙 ฟรี! เปลี่ยนไส้กรองทุก 4 เดือน
💙 ฟรี! ติดตั้งและบำรุงรักษา
💙 ฟรี! รับประกันอะไหล่ตลอดระยะสัญญา
Comments